สังคีตกวีไทย

นายสำราญ เกิดผล

1) ประวัติและผลงานสังคีตกวีไทยครูสำราญ เกิดผล เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2470 ปีเถาะ ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 7 ณ บ้านเลขที่ 57 หมู่ 4 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัด พระนครศรีอยุธยาเป็นบุตรของนายหงษ์ เกิดผล กับนางสังวาลย์ เกิดผล แม่เพลงพื้นบ้านผู้มีความสามารถทั้งเพลงเรือ เพลงแอ่วและเพลงเกี่ยวข้าว มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกันทั้งหมด 7 คน คือ นางศิริ บุญจำเริญ, นายสวง เกิดผล, นางสมถวิลย์ กลิ่นสุคนธ์ , นางแสวง ตัณฑะตะนัย, สำราญ เกิดผล, นางลออ มีวีรสม และนายจำลอง เกิดผล

เรียนดนตรีครั้งแรกกับครูจำรัส เกิดผล และครูสังเวียน เกิดผล ในเวลาต่อมาซึ่งครูทั้งสองมีศักดิ์เป็นอาของครูสำราญเอง ภายหลังได้มีโอกาสได้เรียนกับครูหลายท่าน เช่น ครูเพชร จรรนาฏย์ ครูเทียบ คงลายทอง ครูฉัตร สุนทรวาทิน ครูช่อ สุนทรวาทิน และครูอาจ สุนทร เป็นต้น

ผลงานด้านการแต่งเพลงของครูสำราญ เกิดผล ที่สำคัญ เช่น เพลงกลางพนาเถา เพลงลอยประทีปเถา และเพลงไอยราชูงวงเถา ที่แต่งขึ้นเพื่อถวายแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เป็นต้น

ปัจจุบัน ครูสำราญ เกิดผล ได้ถ่ายทอดความรู้ทางดนตรีให้กับลูกศิษย์ผู้มีความสนใจทั้งที่บ้าน “พาทยรัตน์” สถาบันการศึกษา เช่น วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา

     2) ผลงานด้านดนตรี

ผลงานด้านการแต่งเพลงของครูสำราญ เกิดผล ที่สำคัญ เช่น เพลงกลางพนาเถา เพลงลอยประทีปเถา และเพลงไอยราชูงวงเถา ที่แต่งขึ้นเพื่อถวายแด่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เป็นต้น

นายเฉลิม บัวทั่ง

1) ประวัติและผลงานสังคีตกวีไทย

   นายเฉลิม บัวทั่ง เป็นศิลปินอาวุโสด้านดนตรีไทยที่มีผลงานดีเด่นจนเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป ได้สร้างสรรค์ผลงานดนตรีไทยไว้มากมาย เช่น ได้

ประพันธ์เพลงประเภทโหมโรง ประเภทเพลงเถา ประเภทเพลงระบำ ประเภทเพลงเรื่อง ประเภทนำทางเดี่ยว เป็นต้น นอกจากนี้ยังเป็นผู้ริเริ่มอังกะลุงของไทย 

จาก ๒ กระบอก มาเป็น ๓ กระบอก ริเริ่มในการบันทึกโน้ตเพลงไทยสำหรับเครื่องตี คือระนาดและฆ้อง และเป็นผู้ริเริ่มการบรรเลงอังกะลุงประสานเสียงแบบสากล

อีกด้วย ในด้านวิชาการนั้น เป็นผู้ให้ความรู้ในเรื่องดนตรีไทย   แก่สถาบันต่าง ๆ เช่น สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ วิทยาเขตนนทบุรี คณะแพทย์ศาสตร์โรง

พยาบาลรามาธิบดี ธนาคารกรุงเทพ จำกัด วิทยาลัยแพทย์พระมงกุฎเกล้า และอื่น ๆ อีกหลายสถาบัน ในปี พุทธศักราช ๒๕๒๔ ได้รับพระราชทานโล่

เกียรติยศ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในฐานะนักดนตรีไทย    ตัวอย่าง ได้อุทิศเวลาอันยาวนาน สร้างสรรค์ทำนุบำรุงส่งเสริมพัฒนา และเผยแพร่ ศิลปะด้าน

ดนตรีไทยให้เป็นที่ประจักษ์ สมควรได้รับการประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทย) ประจำปี พุทธศักราช ๒๕๒๙

      2) ผลงานด้านดนตรี

         ในปี พ.ศ. ๒๕๒๔ ครูได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการของสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เสนอชื่อให้ได้รับ

พระราชทานโล่เกียรติยศจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิ พลอดุลยเดช ฯในฐานะนักดนตรีไทยตัวอย่าง ซึ่งมีนักดนตรีไทยที่ได้รับพระราชทานโล่ครั้งนี้เพียง 

๔ คน คือ อาจารย์มนตรีตราโมท ครูเฉลิม บัวทั่ง คุณหญิงไพฑูรย์ กิตติวรรณ และครูบุญยง เกตุคง ซึ่งครูเฉลิมบอกว่าเป็นรางวัลที่ครูภูมิใจที่สุดในชีวิต นอกจากนี้

เมื่อต้นปีพ.ศ. ๒๕๒๕ ครูได้แต่งเพลงเข้าประกวดรางวัลพิณทองซึ่งธนาคารกสิกรไทย เป็นผู้ดำเนินการจัดประกวด เพลงของครูก็ได้รับรางวัลชนะเลิศ คือเพลงปิ่น

นคเรศเถาครูเฉลิมแต่งงานกับนางไสว มีบุตรธิดาด้วยกันทั้งสิ้น ๑๑ คน เสียชีวิตตั้งแต่ยังเล็ก ๔ คน บุตรธิดาของท่านที่มีฝีมือในทางดนตรีไทยได้แก่ นายพัฒน์ บัว

ทั่งคนระนาดเอกรับราชการอยู่ที่กองการสังคีต กรมศิลปากร นางสุพัฒน์บัวทั่ง นักร้องกองดุริยางค์ทหารเรือ และนางสุธาร ศุขสายชล จะมีฝีมือจะเข้ดีมาก 

นอกจากจะมีวงปี่พาทย์และมโหรีของตัวเองแล้ว ครูเฉลิมยังทำอังกะลุงส่งออกขายด้วย ท่านได้เขียนโน้ตเพลงเสียงประสานสำหรับอังกะลุงไว้มาก ผลงานทาง

ด้านอังกะลุงส่วนใหญ่มีบันทึกไว้ พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และพักฟื้นที่บ้าน ในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๓๐ ครูได้เข้ารับพระราชท่านโล่และเข็มเชิดชู

เกียรติในฐานะศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทย) ประจำปี ๒๕๒๙ นับเป็นเกียรติสูงส่งและความปลื้มปิติสูงสุดครั้งสุดท้ายในชีวิตของครู ครูถึงแก่

กรรมในวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๓๐ รวมอายุได้ ๗๗ ปี

อ้างอิง https://sites.google.com/site/nuengruethaimusic/hnwy-thi-1-khwam-ru-thawpi-keiyw-kab-dntri-thiy/sangkhit-kwi-thiy